เมื่อคุณตัดสินใจจะเลี้ยงปลาสวยงาม และเลือกชนิดปลาที่จะเลี้ยงแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ การเข้าไปดูข้อมูลปลาที่ร้านค้าปลาออนไลน์ หรือไปที่ฟาร์มปลาสวยงาม หรือร้านขายปลาสวยงาม เพื่อเลือกซื้อปลาที่ต้องการมาเลี้ยง ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เพราะหากได้ปลาที่ไม่แข็งแรง ไม่สมบูรณ์ หรือมีเชื้อโรคติดมา ปลาที่ซื้อมาเลี้ยงอาจตายในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน หรือคุณอาจจะต้องทนเลี้ยงปลาที่ไม่สมประกอบไปอีกนาน
วิธีการเลือกซื้อปลาสวยงาม ควรจะพิจารณาจากสิ่งต่อไปนี้
- ควรเลือกซื้อปลาในเวลากลางวัน เพราะคุณจะสังเกตสีสันที่แท้จริงของปลาได้ดี แต่ในปัจจุบันการจัดตู้ปลามีความทันสมัยมากขึ้น โดยร้านขายปลาสวยงามมักจะติดหลอดไฟพวกแสงสะท้อน แล้วเปิดไว้ตลอดเวลาเพื่อทำให้เห็นว่าปลามีสีสดใสมากกว่าที่เป็นจริง คุณต้องใช้ความสามารถในหารมองของคุณให้ดี
- สังเกตสภาพของตัวปลา คือคุณจะต้องเลือกปลาที่ไม่มีร่องรอยความบอบช้ำ เช่นเกล็ดหลุด ครีบแหว่ง หรือมีแผลตามลำตัว เพราะอาจเป็นปลาที่ได้รับการกระทบกระเทือนจากการขนส่ง หรือมีการระบาดของโรคพยาธิเกิดขึ้น ถ้าเลือกซื้อปลาที่บอบช้ำมาเลี้ยง อาจเกิดการติดเชื้อต่างๆ ได้ ยิ่งถ้ามีการระบาดของโรคพยาธิอยู่แล้ว ปลาที่เลือกซื้อมาก็มักจะตายหมด
- สังเกตลักษณะการว่ายน้ำหรือการทรงตัวของปลา ควรสังเกตว่าชนิดปลาที่จะซื้อมีลักษณะการว่ายน้ำอย่างไร เช่น พวกปลานีออน ปลาเสือสุมาตรา ปลาสอด และปลาซิวชนิดอื่นๆ มักชอบว่ายน้ำวนเวียนไปมาตลอดเวลาบริเวณกลางน้ำถึงผิวน้ำ ต้องไม่เซื่องซึม ว่ายลงไปพักอยู่ที่ก้นตู้ หรือลอยตัวอยู่แต่ผิวน้ำ พวกปลาเทวดาและปลาปอมปาดัวร์ ชอบว่ายน้ำช้าๆ ลักษณะเป็นสง่า ต้องไม่ไปซุกอยู่ตามหินหรือมุมตู้ ปลาทองต้องว่ายน้ำได้อย่างสมดุล ว่ายไม่เอียงไปมา การทรงตัวในน้ำอยู่ในลักษณะที่ตรงเมื่ออยู่กับที่ และสามารถว่ายทวนกระแสน้ำได้ดี
- สังเกตลักษณะการกางของครีบต่างๆ คือปลาปกติที่ไม่มีปัญหาเรื่องการติดเชื้อหรือการเกิดโรค จะกางครีบออกเกือบตลอดเวลา แต่ปลาที่มีอาการผิดปกติ มักจะหุบครีบลู่ติดตัวไม่ค่อยกางออก
- สังเกตสีสันของปลา ควรสังเกตเปรียบเทียบปลาในกลุ่มเดียวกัน ปลาที่มีสีสันสดเข้มกว่า ลวดลายเด่นชัด ย่อมมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแกร่งกว่า
- สังเกตความสมบูรณ์ของอวัยวะต่างๆ ควรเป็นปลาที่มีอวัยวะครบถ้วนตรงตามชนิด เช่น ลำตัวโดยเฉพาะคอดหางไม่คดงอ ครีบไม่โค้งพับหรือขาดหายไป
- สังเกตว่าไม่มีปลาตายปะปนอยู่ในบ่อหรือตู้ปลาที่จะเลือกซื้อ หรือไม่มีปลาที่แสดงอาการติดเชื้อปะปนอยู่ นอกจากนั้นเมื่อนำปลามาปล่อยเลี้ยงในตู้ที่เตรียมไว้แล้ว หากพบว่าปลาตัวใดมีอาการผิดปกติ ควรรีบแยกปลาตัวดังกล่าวออกไปเลี้ยงต่างหาก จนแน่ใจว่าอาการดีเป็นปกติจึงค่อยนำกลับมาปล่อยเลี้ยงในตู้ต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก home.kku.ac.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น